ตุ๊กตาผี ท่ามกลางความมืดมิดในบ้านหลังใหญ่ของนวลทิพย์ เศรษฐินีเจ้าของบริษัททิพย์พิมานผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ส่งออกรายใหญ่ของประเทศ
ตุ๊กตาผี เด็กหญิงแป้งร่ำ ลูกสาวคนเดียวของนวลทิพย์ซึ่งเกิดกับธาดาสามีเก่าที่ตายไปแล้วกอดตุ๊กตาตัวโปรดชื่อวาวามองดูวิญญาณพ่อถูกยิงเลือดไหลอาบ แป้งร่ำพูดกับวิญญาณธาดาเสียงสั่น
“มันฆ่าคุณพ่อ…หนูเห็น…”
ธาดายิ้มเศร้า “พ่อเป็นห่วงหนูแป้งร่ำ…ห่วงจนไม่กล้าจากหนูไปไหน”
เสียงพูดคุยเบาๆในห้องนอนแป้งร่ำทำให้ปลา สาวใช้ขี้ตื่นประจำบ้านซึ่งมีหน้าที่ดูแลเด็กหญิงตัดสินใจเข้าไปดู ผีธาดาเลือนหายไป แป้งร่ำโกรธมากแหวไล่สาวใช้ออกจากห้อง
ปลาลนลานออกจากห้อง ภาพใบหน้าของเหล่าตุ๊กตาในห้องของแป้งร่ำยังหลอกหลอนจนเธอต้องฟ้องนวลทิพย์ซึ่งนั่งเล่นกับพิชิตอดีตทนายความประจำบริษัท ที่กลายเป็นสามีใหม่
“คุณผู้หญิงขา…คุณหนูแป้งร่ำเก็บตัวในห้องมืดๆ อีกแล้วค่ะ เหมือนคุณหนูพูดกับใครก็ไม่รู้ค่ะ”
นวลทิพย์รับฟังด้วยท่าทีนิ่งสงบ ต่างจากพิชิต ส่งเสียงหึในลำคอ “ผมบอกคุณหลายครั้งแล้วให้พาแกไปพบจิตแพทย์”
“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ แป้งร่ำไม่ได้ผิดปกติอะไร แกเพียงแต่เสียใจเรื่อง…”
พิชิตนิ่วหน้าส่งสายตาคาดคั้นให้ภรรยาบอกความจริง นวลทิพย์พูดไม่ออกกลัวสามีกระทบกระเทือนจิตใจเพราะเธอเชื่อว่าแป้งร่ำคงเสียใจไม่หายเรื่องการตายธาดาและเรื่องเธอแต่งงานใหม่กับพิชิต
นวลทิพย์ตัดสินใจปลีกตัวไปดูลูกสาว พิชิตถอนใจหน่ายๆแต่ลุกตามไปด้วย แป้งร่ำนั่งกอดตุ๊กตาวาวา ตุ๊กตาตัวสุดท้ายที่ธาดาพ่อแท้ๆซื้อให้ก่อนตายแน่น เมื่อเห็นหน้าพิชิตพ่อเลี้ยงก็เบิกตาโพลงกระถดตัวหนี
พิชิตชักสีหน้าไม่ชอบใจ “ผมพยายามแล้วนะแต่ลูกคุณไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้เอง”
“คุณไปพักผ่อนเถอะ…ฉันจะอยู่กับลูก”
นวลทิพย์ตัดบทเสียงเรียบ เธอรอจนสามีออกไปจึงเอื้อมมือหาลูกสาว หวังกอดปลอบแต่แป้งร่ำก็เบี่ยงตัวหนี นวลทิพย์หัวใจสลาย เอ่ยกับลูกสาวเสียงเครือ
“อย่าทำกับแม่อย่างนี้…ใจแม่จะขาด…พูดกับแม่บ้างสิแป้งร่ำ”
พิชิตไม่ได้กลับห้องแต่แอบฟังสองแม่ลูกคุยกันจากด้านนอก ท่าทางหัวเสียเพราะแป้งร่ำไม่เคยญาติดีกับเขา ไม่รู้เลยว่าผีธาดาลอบมองเขาจากอีกมุม…แววตาเคียดแค้นที่พิชิตพรากทุกสิ่งทุกอย่างที่รักไป
นวลทิพย์ตัดใจออกจากห้องลูกสาวไปนอนร้องไห้ในห้อง พิชิตมองมาด้วยความสมเพชและอดไม่ได้จะเสนอความคิดเห็นแบบไม่รักษาน้ำใจ
ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.thairath.co.th